จอร์จ พ่อหนุ่มดวงซวยของเราเริ่มเช้าวันจันทร์ด้วยความหายนะทั้งรถเสีย ใกล้จะโดนไล่ออกจากงาน เพราะ project ที่รับผิดชอบทำท่าจะล่มจม เพื่อนในทีมก็เอาแต่ทะเลาะกัน หยิบจับอะไรก็ดูจะไม่ดีไปหมด… แต่ชีวิตของจอร์จก็เปลี่ยนไปตลอดกาลเพราะขึ้นรถเมล์ที่ขับโดยจอย (Joy ที่แปลว่าร่าเริง) รถคั้นนั้น ชื่อ Energy Bus….ที่เกริ่นนำมาเป็นหน้าแรกๆ ของหนังสือเรื่อง The Energy Bus ที่ติดอันดับขายดีใน Amazon ด้วยค่ะ แล้วเร็วๆ นี้ก็มีการแปลเป็นภาษาไทยออกมาขายด้วย (หน้าปกเปลี่ยนจากสีเหลืองเป็นสีน้ำเงิน) หากจะพูดกันตามจริงเนื้อหาที่นำมาเรียบเรียงเป็นกฎ 10 ข้อในการใช้ชีวิต (10 rules for the ride of your life) ไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่สิ่งที่น่าประทับใจในหนังสือเล่มนี้ คือ การนำข้อแนะนำนั้นมาผูกเรื่องเป็นนิยายขนาดสั้นเรื่องนึง (เทคนิคเดียวกับ who moves my cheese) แล้วกฎสิบข้อที่ Joy สอนจอร์จในแต่ละวันมีอะไรบ้าง มาดูกันค่ะ
ในหนึ่งหน้าสไลด์ของเรา บางครั้งเต็มไปด้วย Text Box 3 อัน รูปภาพอีก 6 รูป รูปสี่เหลี่ยมอีก 1 อัน…เคยมั๊ยคะ เวลาจะเอาเมาส์ไปคลิกที่รูปภาพที่ซ้อนอยู่ใน Text Box อีกทีนึง มันคลิกไม่ติดอ่ะค่ะบางทีคลิกจนหงุดหงิดไปหมด ก็ไม่ติดสุดท้ายต้องย้าย Text Box ออกไปก่อนไม่ก็ต้องใช้คำสั่ง Send to Back เพื่อให้ Text Box กระเด็นไปอยู่ข้างหลัง จะได้ไม่บังรูปภาพ ดูยุ่งยากนะคะชีวิตคนทำสไลด์ก็ลำบากลำบนอย่างนี้แหละค่ะที่จริงชีวิตเราจะง่ายขึ้นมากค่ะ ถ้าเรารู้จักคำสั่งลับที่เรียกว่า…
มีของดีและฟรีมาแนะนำอีกแล้วค่ะเดี๋ยวนี้ใครๆ ก็บอกว่า จะนำเสนอให้เฉียบต้องเล่าเรื่องให้เก่ง ถึงกับมีกูรูว่าไว้ว่า “ใครเล่าเรื่องเก่ง คนนั้นชนะ”…อันนี้คอนเฟิร์มด้วยคนค่ะ ว่าเรื่องเล่าที่ดีส่งผลจริงๆ เมื่อสัปดาห์ก่อนอิงไปนำเสนอเรื่องหนักๆ ว่าด้วย Circular Economy พูดเสร็จ ก็พักทานชากาแฟ ระหว่างนั้นมีผู้ฟังมาร่วมแสดงความคิดเห็นกันหลายคน ทุกคนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าชอบเรื่อง โทรศัพท์มือถือที่เล่าไว้ตอนเปิดการนำเสนอมากที่สุด ทั้งช่วยกระตุ้นความคิดและเป็นบทสรุปของเรื่องหนักๆ ที่เล่าไปได้ดี…คาดว่าผ่านไปอีกหนึ่งสัปดาห์ ผู้ฟังคงจำสไลด์ได้เลือนลาง แต่ยังคงจำเรื่องเล่าได้แม่นยำค่ะ…กลับมาที่ของฟรีและดีกันค่ะ
ช่วงหลังๆ อิงได้ไปฟัง น้องๆ Pitch อยู่บ่อยๆ ต้องบอกว่าแต่ละไอเดียน่าสนใจและน่าประทับใจมาก…น้องๆ ทำสไลด์ออกมาดูดี สวยงาม ตามสไตล์ Start Up รุ่นใหม่แต่สิ่งนึงที่ขาดหายไปในการ Pitch ส่วนใหญ่ที่เจอ คือ การใช้ประโยชน์จากการแสดงภาษากาย โดยเฉพาะการเดิน…เอ๊ะ… การเดินสำคัญขนาดนั้นเลยหรอ?อาจไม่สำคัญที่สุด แต่สำคัญแน่นอนค่ะมาดูค่ะ ว่าเราจะออกเดินอย่างไรจึงจะเพิ่มเสน่ห์ให้กับการ Pitch และการนำเสนอของเราได้?
