เวลามีใครถามอิงเรื่องหนังสือ Data visualizaiton
เล่มแรกเลยที่ต้องแนะนำ คือ
Storytelling with data
หนังสือที่ขายดีมากๆ ติด Best Seller ของ Amazon ตลอด
ข่าวดี คือ ผู้เขียน Storytelling with data ออกหนังสือใหม่แล้ว
ยังคงความเป็น Storytelling ที่เป็นจุดขายไว้
แต่... เปลี่ยนมุมมาเป็นเรื่อง Presentation
ในชื่อ Storytelling with you
แค่ชื่อก็ตื่นเต้นแล้ว
มาดูรีวิวฉบับเร่งด่วนกันค่ะ
More...
เกี่ยวกับผู้เขียน
คุณ Cole Nussbaumer Knaflic เป็นนักเขียนระดับ Best Seller หนังสือเล่มแรกของเธอ Storytelling with data ขายดีทั่วโลกค่ะ และได้รับการแนะนำอยู่ใน list ของกูรูชั้นนำหลายคนด้าน Data visualization และการนำเสนอ
เธอเคยทำงานที่ Google และที่พิเศษ คือ เธอเป็นวิทยากรให้กับเจ้าหน้าที่ของ Google คนอื่นๆ เรื่องการนำเสนอข้อมูล (นั่นเป็นที่มาของหนังสือเล่มแรกของเธอค่ะ) ซึ่งได้รับการตอบรับดีมาก จนเธอลาออกจาก Google มาเปิดบริษัทของตัวเองที่ชื่อ Storytelling with data (SWD) หากคุณสนใจเรื่องการนำเสนอข้อมูล อิงแนะนำให้เก็บ website ของบริษัทเธอไว้ใน list ด่วนเลยค่ะ บทความดีๆ เยอะมาก (ค้นหาด้วยคำว่า storytelling with data)
หนังสือนี้น่าจะเหมาะกับใคร
หนังสือเล่มนี้ถือว่าอ่านง่ายแบบจับมือทำ หนังสือมีเนื้อหาเกี่ยวกับการนำเสนอโดยเฉพาะ ซึ่งอิงว่าเหมาะกับมือใหม่มาก หากเป็นมืออาชีพด้านการนำเสนออยู่แล้ว อาจมีเนื้อหาใหม่ๆ ไม่มากนัก (มีแทรกบ้างเป็นระยะ) แต่ก็ถือเป็นหนังสือที่เหมาะกับการทบทวนที่คุ้มค่ากับเวลาอยู่ดีค่ะ
ดังนั้นอิงว่าหนังสือเล่มนี้น่าจะเหมาะกับคน 2 กลุ่มหลักๆ ค่ะ
หนังสือเขียนเกี่ยวกับอะไรบ้าง
หนังสือแบ่งออกเป็น 3 ส่วนหลักๆ ครอบคลุมกระบวนการนำเสนอทั้งหมด มาดูกันค่ะว่าแต่ละส่วนพูดถึงอะไรกันบ้าง
#ส่วนที่ 1 Plan
ในส่วนนี้มี 4 บท คือ
บทที่ 1: consider your audience
บทที่ 2: craft your message
บทที่ 3: compile the pieces
บทที่ 4: form a story
เนื้อหาในส่วนนี้เป็นส่วนที่มักถูกละเลย คนส่วนใหญ่เริ่มต้นเตรียมการนำเสนอ โดยการเปิด PowerPoint แล้วลุยเลย ไม่ได้มีการคิดและวางแผนก่อน หรือบางคนอาจมีการเขียน outline ออกมาบ้าง อิงเชื่อว่าคนที่เตรียมการนำเสนอเต็มรูปแบบตามทั้ง 4 บทนั้นมีน้อยมาก หากคุณเป็นหนึ่งนั้น อิงขอชื่นชมคุณจากใจจริงเลยค่ะ คุณเป็น rare item ของการนำเสนอค่ะ
อิงเคยเจอผู้ร่วมงานหลายคนที่ไม่ได้วิเคราะห์ผู้ฟัง แต่เอาสิ่งที่ตัวเองอยากจะสื่อ (หรือบางครั้งก็เป็นสไลด์เดิมๆ ที่มีอยู่ หรือไปขอคนอื่นมาได้) มาเป็นตัวตั้งในการออกแบบการนำเสนอ แล้วยำทุกอย่างเข้าด้วยกัน… หากเราไม่อยากฟังการนำเสนอแบบไหน เราเองก็ไม่ควรเตรียมการนำเสนอแบบนั้นค่ะ
หากคุณเปิดใจ แล้วค่อยๆ อ่านตั้งแต่บทที่ 1 ไล่ไปจนถึงบทที่ 4 แล้วนำไปใช้เตรียมการนำเสนอ สิ่งที่คุณจะได้ คือ การนำเสนอของคุณจะโดนใจผู้ฟังมากขึ้น ลำดับการนำเสนอไม่สับสนวุ่นวาย (เราจะเลิกพายเรือในอ่าง แล้วเข้าสู่ฝั่งกันค่ะ) แถมเนื้อหาชวนติดตาม
ในแต่ละบทจะมีเทคนิคและเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยที่ผู้อ่านใช้ในการเตรียมการนำเสนอสอดแทรกอยู่ตลอด เช่น การ brainstorm ต้องทำอย่างไร การเรียงลำดับเนื้อหาใช้วิธีไหนได้บ้าง เป็นต้น
(หากอยากไปต่อกับการเล่าเรื่อง อิงแนะนำเล่มนี้เลยค่ะ Everyday Business Storytelling อ่านรีวิวได้ที่นี่)
#ส่วนที่ 2 Create
ในส่วนนี้มี 4 บท คือ
บทที่ 5: set the style & structure
บทที่ 6: say it with words
บทที่ 7: show data in graphs
บทที่ 8: illustrate with images
เนื้อหาในส่วนนี้ พาผู้อ่านท่องไปในโลกของการออกแบบสไลด์ เริ่มจากเลือกสไตล์ที่ใช้ (สีและ font ที่ใช้) และโครงสร้างของสไลด์ (ด้วยการใช้คำสั่ง Slide master ใน PowerPoint) จากนั้นก็เป็นการออกแบบสไลด์ตัวหนังสือ สไลด์ที่ใช้กราฟเป็นหลัก และสไลด์ที่ใช้รูปเป็นหลัก แต่ละเรื่องจะไม่ได้ลงลึกมาก แต่เพียงพอสำหรับมือใหม่ที่จะนำไปใช้ได้อย่างสบายๆ
#ส่วนที่ 3 Deliver
ในส่วนนี้มี 4 บท คือ
บทที่ 9: refine through practice
บทที่ 10: build your confidence
บทที่ 11: introduce yourself
บทที่ 12: have a stellar session
เนื้อหาในส่วนนี้คัดมาเนื้อๆ เน้นๆ ถ้าจะไม่ไปอ่านเล่มอื่นๆ ต่อ เพื่อลงลึกเฉพาะด้าน แค่ 4 บทในส่วนนี้ ก็เพียงพอที่จะทำให้เราเอาตัวรอดในการนำเสนอได้สบายๆ ค่ะ และแน่นอนอยากได้ผลลัพธ์ที่ดีก็ต้องลงแรงค่ะ เริ่มจาก ซ้อม ซ้อม และซ้อม
ผู้เขียนค่อยๆ แนะแนวเราไปทีละขั้น จะซ้อมยังไง (มีสไลด์ ไม่มีสไลด์) ควรออกเสียงแบบไหน เรียกว่าจับมือติวกันเลยทีเดียว จากนั้นก็มาถึง Pain point ของคนส่วนใหญ่ค่ะ นั่นคือ พอต้องออกไปนำเสนอมันไม่มั่นใจเอาซะเลย นอกจากซ้อมแล้วต้องเตรียมตัวให้พร้อมด้วยค่ะ (ผู้เขียนมีคำแนะนำในส่วนนี้เพียบเลยค่ะ) เมื่อเตรียมตัวพร้อมแล้วก็ได้เวลาลงสนาม นำเสนอจริงซะที ผู้เขียนก็ยังคงอยู่ข้างๆ เรา จูงเราไปตั้งแต่เริ่มอ้าปากจนจบการนำเสนอค่ะ (รวมถึงการตอบคำถามด้วย)
ความคิดเห็นของฉัน
หากจะให้อิงแนะนำหนังสือให้กับน้องๆ ที่ร่วมงานกัน เพื่อพัฒนาทักษะการนำเสนอ อิงจะแนะนำหนังสือเล่มนี้อย่างแน่นอนค่ะ อิงว่าหนังสือเล่มนี้เหมาะมากสำหรับการเริ่มต้นเข้าสู่ลูปการพัฒนาทักษะการนำเสนอ ทั้งเนื้อหาครบถ้วน อ่านง่าย อ่านจบปุ๊บเอาไปใช้ได้เลย (หรืออ่านไปใช้ไปก็ได้ค่ะ) แล้วหากอยากเจาะลึกในหัวข้อไหน ค่อยไปอ่านเล่มอื่นเพิ่มได้ค่ะ
จุดเด่นของหนังสือเล่มนี้ คือ
แล้วควรซื้อหรือไม่?
หากคุณอยู่ในกลุ่มที่มองหาโอกาสในการพัฒนาการนำเสนอและยังงงๆ อยู่ว่าจะเริ่มอย่างไร อิงเชื่ออย่างยิ่งว่าหนังสือเล่มนี้เป็นคำตอบที่คุณตามหา หากไม่แน่ใจ แนะนำให้ไปเปิดดูที่ร้านหนังสือก่อนค่ะ อ่านแค่ 3-4 หน้า ก็พอจะรู้แล้วค่ะ ว่าจะรับน้องกลับบ้านด้วยดีมั๊ย
หากคุณเป็นมือเก๋าในการนำเสนอ หนังสือเล่มนี้อาจไม่ได้มีเนื้อหาใหม่กิ๊กสำหรับคุณ แต่ถือเป็นการทบทวนสิ่งที่เราทำ พร้อมทั้งลองดูวิธีทำงานของคนอื่น (ที่ well known ในระดับสากล) อีกด้วย (แต่ต้องไม่ลืมนะคะว่าหนังสือเหมาะกับ Beginner ไม่ได้ลงลึกเรื่องใดเรื่องหนึ่งโดยเฉพาะ แนะนำให้ไปเปิดอ่านที่ร้าน ก่อนตัดสินใจซื้อ เพราะคุณอาจคิดว่าไม่คุ้มที่จะซื้อสิ่งที่รู้อยู่แล้วก็ได้ค่ะ)
คะแนนสำหรับ Storytelling with You
อิงลองให้คะแนนในหัวข้อต่างๆ ไว้ดังนี้ค่ะ
อ่านเข้าใจได้ง่าย 5/5
ช่วยเพิ่มพูนความรู้/ทักษะ 4.5/5
ความประทับใจโดยรวม 5/5
คุ้มค่า (เงิน/เวลา) 4.5 (หักไป 0.5 เผื่อไว้สำหรับคนที่ไม่ใช่มือใหม่)
หนังสือนี้เหมาะสำหรับ Beginner ถึงไม่รู้อะไรเลยเกี่ยวกับการนำเสนอก็อ่านได้ค่ะ (ที่จริงยิ่งดีนะคะ มาเรียนรู้กันใหม่เลย) เรียกได้ว่า เหมาะที่จะเป็นหนังสือเล่มแรกสำหรับผู้ที่กำลังต้องการพัฒนาทักษะการนำเสนอ
คำถามชวนคิด
กระบวนการออกแบบการนำเสนอของคุณเป็นอย่างไร?
คุณจะประยุกต์ใช้สิ่งต่างๆ ในหนังสือกับการนำเสนอของคุณได้อย่างไร